เมื่อฟันหลุดหรือสูญเสียฟันสิ่งแรกที่หลายคนมักนึกถึงก่อนจะตัดสินใจทำรากฟันเทียมคือ “รากเทียมยี่ห้อไหนดี?” เพราะการทำรากฟันเทียมเป็นการลงทุนที่ต้องใช้งบประมาณและฟันที่ทำขึ้นใหม่จะอยู่กับเราไปอีกนาน และยังมีหลายคำถามที่ตามมามากมายนะคะไม่ว่าจะเป็น รากเทียมแบบไหนใช้งานได้นานที่สุด? รากเทียมยอดนิยมในยุโรปมีแบรนด์อะไรบ้าง? แล้วทำไมคนถึงเชื่อมั่นในรากเทียมยุโรปมากขนาดนี้?
วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกประวัติ ความน่าเชื่อถือ และจุดเด่นของ 2 แบรนด์ รากเทียมมาตรฐานยุโรป ที่ใช้กันแพร่หลาย ได้แก่ PI-Brånemark และ SIC เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่ารากฟันเทียมยี่ห้อไหนดีที่สุดสำหรับคุณ
PI-Brånemark รากฟันเทียมยุโรปจากสวีเดน
ชื่อของ PI-Brånemark มักถูกพูดถึงในฐานะ รากเทียมยอดนิยม เพราะมีประวัติยาวนานและเป็นรากฐานของรากฟันเทียมสมัยใหม่
Per-Ingvar Brånemark (1929 – 2014) เป็นนักวิจัยชาวสวีเดนผู้ถูกยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งการทำ รากฟันเทียมสมัยใหม่” เพราะเป็นผู้ค้นพบแนวคิด “osseointegration” หรือการประสานกันระหว่างกระดูกกับวัสดุไทเทเนียม (รากฟันเทียม) ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของรากฟันเทียมในปัจจุบัน

ในปี 1952 เขาทดลองใส่รากเทียมที่ทำจากไทเทเนียม (titanium) เข้าไปในกระดูกของกระต่ายเพื่อศึกษาการไหลเวียนของเลือดในกระดูก และเมื่อเวลาผ่านไปพบว่ารากเทียมนั้นติดแน่นเข้ากันกับกระดูกได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งเขาเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “osseointegration”
หลังจากนั้นเขาเริ่มทดลองใช้แนวคิดนี้กับคน โดยในปี 1965 ได้ใส่รากฟันเทียมไทเทเนียมลงในผู้ป่วยคนแรกชื่อ “Gösta Larsson” ที่เมือง Gothenburg ประเทศสวีเดน ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง Cureus หรือวารสารการแพทย์ออนไลน์แบบ Open Access ที่เปิดโอกาสให้นักวิจัย แพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลกเผยแพร่ผลงานทางวิชาการได้ฟรี ทำให้งานวิจัยของเขาถูกนำเสนอในงานประชุมที่เมืองโตรอนโต (Toronto) ในปี 1982 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้แนวคิดนี้ได้รับการยอมรับในวงการวิชาการทั่วโลกและจากนั้น PI-Brånemark ถูกต่อยอดสู่การผลิตเชิงพาณิชย์โดย Nobelpharma (Nobel Biocare) และกลายเป็นรากเทียมที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก

ความน่าเชื่อถือ
- มีงานวิจัยระยะยาวยืนยันคุณภาพกว่า 30–40 ปี
- ถูกยกให้เป็นต้นแบบของ รากเทียมมาตรฐานยุโรป ที่ทันตแพทย์ทั่วโลกใช้ โดยงานวิชาการในหลายทศวรรษได้ยืนยันว่าวัสดุไทเทเนียม + แนวคิด osseointegration ให้ผลลัพธ์ที่มั่นคงในระยะยาว
- ผู้ป่วย Gösta Larsson ใช้รากฟันเทียมที่ Brånemark ใส่ให้เป็นเวลา มากกว่า 40 ปี” โดยรากฟันเทียมยังอยู่และใช้งานได้ดี จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปี 2006
SIC รากฟันเทียมยุโรปจากสวิตเซอร์แลนด์
SIC (Schilli Implantology Circle) เป็นรากเทียมที่เกิดจากการรวมตัวของเครือข่ายทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรากฟันเทียม และถูกพัฒนาโดย SIC-Invent AG ที่ก่อตั้งในปี 2003 ณ เมือง Basel ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รากฟันเทียม SIC ผลิตในประเทศเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ โดยผลิตที่ Aesculap Implant System โรงงานผลิตรากเทียมที่ดีที่สุดในโลก ภายใต้มาตรฐานการแพทย์ยุโรปและมีการจัดจำหน่ายในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก

จุดเด่นทางเทคโนโลยี
- การเชื่อมต่อแบบ internal hexagon และ conical interface (morse taper) ช่วยให้รากฟันเทียมแน่น ลดการเคลื่อนที่และโยกของรากฟันเทียม
- พื้นผิวผ่านการ blasting ด้วย zirconia particles เอื้อต่อการยึดติดกับกระดูกและรากเทียม
- มีหลายรุ่นให้เลือก เช่น SICace, SICmax, SICtapered, SICwhite (ceramic) ครอบคลุมทุกเคสของคนไข้
- รองรับการทำงานกับ ระบบดิจิทัล CAD/CAM และสแกน 3 มิติ
ผลงานและความน่าเชื่อถือ
- SIC ถูกนำมาใช้ในโรงพยาบาลชั้นนำในประเทศไทย เช่น BIDH (Bangkok International Dental Hospital) และคลินิกขนาดใหญ่ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศอย่าง Smile Signature และคลินิกอื่น ๆ อีกทั้งยังได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับ top implant systems ที่คลินิกเลือกใช้อีกด้วย
- ข้อมูลบนเว็บไซต์ SIC แสดงว่าผลลัพธ์ระยะยาวของระบบ SIC เป็นที่ยอมรับในวงการ และมีชุมชนวิชาการ (SIC Academy) ที่ส่งเสริมการฝึกอบรมและงานวิจัยต่อเนื่อง
- SIC มีการใช้ในหลายประเทศ และเป็นรากเทียมที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายรองรับแต่ละเคสที่แตกต่าง

ในปี 2018 SIC ได้เข้าซื้อสิทธิ์และเทคโนโลยีของ PI-Brånemark ทำให้สามารถรวมจุดแข็งของทั้ง 2 แบรนด์เข้าไว้ด้วยกันได้อย่าสมบูรณ์แบบ”
เคล็ดลับการเลือกรากฟันเทียมที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
- เลือกทันตแพทย์และคลินิกที่มีประสบการณ์ เพื่อความมั่นใจในระยะยาว
- ประเมินสภาพกระดูกและช่องปากกับทันตแพทย์ เพราะการที่คุณมีกระดูกหนา(แข็ง) หรือบาง(นุ่ม) จะเป็นตัวชี้ว่าต้องเลือกใช้รากฟันเทียมแบบไหน
- ดูผลวิจัยระยะยาว ยิ่งมีงานวิจัยที่ติดตาม 10-30 ปี ยิ่งมั่นใจได้
- ปรับให้เข้ากับงบประมาณและความคุ้มค่า แบรนด์ดังอาจแพงกว่า แต่บางแบรนด์รองรับได้ดีในราคาย่อมเยา
- พิจารณาจากการรองรับอุปกรณ์และเทคโนโลยีเสริม เช่น ระบบดิจิทัล (CAD/CAM), การสแกน 3 มิติ, การฝึกอบรมของแพทย์
ราคาเริ่มต้นในประเทศไทย
ปัจจุบันในประเทศไทยได้มีการนำรากฟันเทียม PI-Brånemark และ รากฟันเทียม SIC เข้ามาใช้ในงานทันตกรรมสำหรับคนไข้ที่สูญเสียฟันแล้วต้องการทำรากฟันเทียม เพื่อให้กลับมาเคี้ยวอาหารได้ตามปกติในราคาที่คนไทยสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งถือเป็นรากฟันเทียมยุโรปคุณภาพสูงแต่ราคาย่อมเยา
- PI-Brånemark เริ่มต้น 35,000.- (รากเทียม + ครอบฟัน)
- SIC เริ่มต้น 49,000.- (รากเทียม + ครอบฟัน)
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่เพจ Dental Vision Thailand