อยากทำรากฟันเทียมต้องรู้อะไรบ้าง?

การสูญเสียฟันเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก ไม่เพียงแต่ด้านการเคี้ยวอาหารเท่านั้นแต่ยังรวมถึงความมั่นใจในการพูดและการยิ้มด้วยค่ะ รากฟันเทียม (Dental Implant) จึงกลายเป็นทางเลือกที่ช่วยในการแก้ไขปัญหาการสูญเสียฟันไป เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงฟันธรรมชาติมากที่สุด

หากคุณสนใจทำรากฟันเทียม เนื้อหานี้จะช่วยให้คุณเข้าใจทุกสิ่งที่ควรรู้ตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐาน ประเภทของรากฟันเทียม ไปจนถึงราคารากฟันเทียมและวิธีเลือกการคลินิกที่เหมาะสมค่ะ

รากฟันเทียมคืออะไรและแตกต่างจากฟันปลอมทั่วไปอย่างไร?

รากฟันเทียมเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ออกแบบมาเพื่อทดแทนรากฟันที่สูญเสียไปค่ะ โดยจะฝังเข้าไปในกระดูกขากรรไกรเพื่อเป็นฐานรองรับฟันเทียม ซึ่งแตกต่างจากฟันปลอมแบบดั้งเดิมที่เพียงแค่วางทับบนเหงือก โดยวัสดุที่ใช้ทำรากฟันเทียมส่วนใหญ่จะเป็นไทเทเนียม (Titanium) ซึ่งเป็นวัสดุที่เข้ากับร่างกายของเราได้ดี และสามารถเชื่อมต่อกับกระดูกได้อย่างแน่นหนา กระบวนการนี้เรียกว่า “ออสซีโออินทิเกรชัน” (Osseointegration) ค่ะ

ประเภทของรากฟันเทียม

1. รากฟันเทียมแบบเดี่ยว (Single Implant) เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันเพียง 1-2 ซี่ โดยจะใส่รากฟันเทียม 1 ตัวต่อฟัน 1 ซี่ วิธีนี้ช่วยรักษาฟันข้างเคียงให้คงสภาพเดิม

2. รากฟันเทียมแบบ All-on-4 เป็นเทคนิคการใส่รากฟันเทียม 4 ตัวเพื่อรองรับฟันทั้งขากรรไกร เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันหลายซี่หรือทั้งขากรรไกร ข้อดีคือสามารถใส่รากฟันเทียมได้ภายในวันเดียว และใช้รากฟันเทียมน้อยกว่าการใส่แบบเดี่ยวค่ะ

3. รากฟันเทียมแบบ All-on-6 คล้ายกับ All-on-4 แต่ใช้รากฟันเทียม 6 ตัว ให้การกระจายแรงที่ดีกว่า และเหมาะสำหรับผู้ที่มีกระดูกขากรรไกรไม่เพียงพอ

4. รากฟันเทียมแบบ Mini Implant มีขนาดเล็กกว่ารากฟันเทียมทั่วไป เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านขนาดกระดูก หรือใช้เป็นการยึดฟันปลอมให้แน่นขึ้น

ใครเหมาะสำหรับการทำรากฟันเทียม?

• สูญเสียฟัน 1 ซี่หรือหลายซี่
• มีสุขภาพเหงือกที่แข็งแรง พร้อมสำหรับการทำรากฟันเทียม
• มีกระดูกขากรรไกรเพียงพอสำหรับการรองรับรากฟันเทียม
• ไม่มีโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อการหายของแผล เช่น เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
• มีวินัยในการดูแลสุขภาพช่องปาก

ขั้นตอนการทำรากฟันเทียม

ขั้นตอนที่ 1: ปรึกษาและวางแผนการรักษา ขั้นตอนแรกของการทำรากฟันเทียมคุณหมอจะ X-ray หรือ CT-Scan หากคนไข้มีกระดูกที่ไม่เพียงพอต่อการทำรากฟันเทียมก็จะต้องทำการปลูกกระดูก (Bone Grafting) หรือ การยกไซนัส (Sinus Lifting) ก่อนค่ะ

ขั้นตอนที่ 2: การฝังรากฟันเทียม การผ่าตัดจะเริ่มจากการใช้ยาชาเพื่อทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บน้อยที่สุดจากนั้นจึงฝังรากฟันทียมลงไปค่ะ หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้นให้คนไข้รอประมาณ 2-4 เดือน หรือจนกว่าแผลจะสมานกันและรากฟันเทียมเชื่อมติดกับกระดูกแน่นค่ะ

ขั้นตอนที่ 3: การใส่ครอบฟัน หลังจากรากฟันเทียมเชื่อมติดกบกระดูกและแผลผ่าตัดสมานกันแล้วคุณหมอจะนัดคนไข้เพื่อมาใส่ครอบฟันค่ะ

ราคารากฟันเทียม

ราคาการทำรากฟันเทียมในไทยเริ่มต้นตั้งแต่ช่วง 25,000-40,000 บาท จนถึง 70,000-120,000 บาท ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดขึ้นอยู่กับคลินิกและโรงพยาบาลที่เลือกและยังมีปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ราคาการทำรากฟันเทียมสูงขึ้นดังนี้ค่ะ

ยี่ห้อและคุณภาพของรากฟันเทียม โดยทาง DVT (Dental Vision Thailand) จะแนะนำเป็นรากฟันเทียมแบรนด์ดังจากยุโรป อย่าง SIC และ P-I Brånemark ที่มีคุณภาพสูงและมีงานวิจัยมาเป็นระยะเวลายาวนานค่ะ

• รากฟันเทียม SIC แบรนด์รากฟันเทียม SIC (Schilli Implantology Circle) เป็นแบรนด์รากฟันเทียมจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ค่ะ ก่อตั้งโดยศาสตราจารย์ ดร. วิลฟรีด ชิลลี (Professor Dr. Wilfried Schilli) เมื่อประมาณ 60 ปีก่อน และบริษัท SIC Invent ก่อตั้งขึ้นในปี 2003 ที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตภัณฑ์ของ SIC ประกอบด้วยรากฟันเทียม ส่วนต่อครอบฟันเทียม ฯลฯ มีการออกแบบรากฟันเทียมหลายรุ่น เช่น SICace, SICmax, และ SICtapered โดยใช้การเชื่อมต่อแบบ HEX ภายในและการออกแบบทรงกรวยล็อกอัตโนมัติ ใช้โรงงานผลิตระดับโลก Aesculap Aeos® และผ่านกระบวนการเคลือบผิวแบบ Sandblasted, Large Grit, Acid-etched ซึ่งช่วยให้รากฟันเทียมยึดติดกับกระดูกได้ดีค่ะ และ SIC เป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากทันตแพทย์ทั่วโลก มีการจำหน่ายในประเทศอื่นๆกว่า 40 ประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วย ซึ่งมีศูนย์ใหญ่ที่จำหน่ายรากฟันเทียมอยู่ที่ Smile Signature Dental Clinic สาขา รัชดาภิเษก SIC ยังเป็นแบรนด์รากฟันเทียมคุณภาพสูงจากสวิตเซอร์แลนด์ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีและงานวิจัยของ Branemark และ Schilli ซึ่งเป็นชื่อที่มีความน่าเชื่อถือเพราะ มีประวัติและนวัตกรรมยาวนานในวงการทันตกรรม พร้อมวัสดุและเทคโนโลยีที่ช่วยให้การยึดติดกับกระดูกมีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรากฟันเทียมที่มีมาตรฐานระดับสากล
• รากฟันเทียม P-I Brånemark บริษัทถือกำเนิดจากแนวคิดของ Father of Implantology หรือ บิดาแห่งรากฟันเทียม Professor Per-Ingvar Brånemark ศัลยแพทย์กระดูกชาวสวีเดน โดยแบรนด์นี้ขึ้นชื่อในเรื่องระบบรากเทียมที่มีพื้นผิวเฉพาะ มุ่งเน้นการลดความยุ่งยาก ให้ผลลัพธ์ยาวนาน และปลอดภัยต่อคนไข้ เพิ่มอัตราการยึดเกาะของกระดูก ลดแบคทีเรีย ส่งเสริมสุขอนามัยในระยะยาว มีตัวแทนจำหน่ายในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยค่ะประเภทของครอบฟันที่ใช้ ในสวนของครอบฟันจะมีอยู่หลายประเภท ซึ่งจะเป็นวัสดุทางการแพทย์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ครอบฟันเรซิน (Resin Crown), ครอบฟันโลหะเคลือบเซรามิก (Porcelain Fused to Metal – PFM), ครอบฟันโลหะ (Metal Crown), ครอบฟันเซรามิกล้วน (All-Ceramic Crown), ครอบฟันเซอร์โคเนีย (Zirconia Crown)

ความซับซ้อนของการรักษา หากมีกระดูกไม่เพียงพอในการทำรากฟันเทียม คนไข้จำเป็นต้องทำการปลูกกระดูกหรือยกไซนัสก่อนที่จะฝังรากฟันเทียม ซึ่งจะทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นจากส่วนนี้ค่ะ และยังมีปัจจัยอื่น เช่น ในเคสที่คนไข้มีการสูบบุหรี่อย่างหนัก คุณหมออาจแนะนำให้งดสูบบุรี่ก่อนและหลังทำรากฟันเทียม เพื่อให้กระดูกผสานเข้ากับเหงือกได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์ ทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือมีประสบการณ์สูง มักมีค่าบริการที่สูงกว่าแต่ก็มาพร้อมกับความเชื่อมั่นในผลการรักษา

Q&A

Q&A : รากฟันเทียมใช้ได้นานแค่ไหน?

หากดูแลรักษาอย่างเหมาะสม รากฟันเทียมสามารถอยู่ได้นานตลอดชีวิต

Q&A :  การใส่รากฟันเทียมเจ็บไหม?

ในการใส่รากฟันเทียมจะมีการใช้ยาทำให้คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บหรือเจ็บน้อยที่สุดระหว่างผ่าตัด หลังผ่าตัดอาจมีอาการบวมและเจ็บเล็กน้อย 2-3 วันนะคะ

Q&A :  ใครไม่เหมาะสำหรับการทำรากฟันเทียม?

ผู้ที่เป็นเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ มีโรคเลือดไม่แข็งตัว สูบบุหรี่หนัก หรือได้รับการรักษาโรคมะเร็งด้วยรังสี อาจไม่เหมาะสำหรับการทำรากฟันเทียม

Q&A :  รากฟันเทียมสามารถทำได้ในผู้สูงอายุไหม?

อายุไม่ใช่ข้อจำกัดสำหรับการทำรากฟันเทียม สิ่งสำคัญคือสุขภาพโดยรวมและความสามารถในการหายของแผลผ่าตัด

หากคุณกำลังมองหาสถานที่สำหรับการทำรากฟันเทียม ควรเลือกคลินิกที่มีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใช้อุปกรณ์ทันสมัยและมีประวัติการรักษาที่ดี อย่าลืมว่าการรักษาที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาเพียงอย่างเดียวนะคะ แต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพการรักษาและการดูแลหลังการรักษาด้วยค่ะ ดังนั้นเราจึงขอแนะนำที่ Smile Signature Dental Clinic สาขารัชดาภิเษก ที่มีการการรับรอง ISO มีความเชี่ยวชาญ เชื่อถือได้ มีการให้บริการทางทันตกรรมแบบครบวงจร มีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำรากฟันเทียมค่ะ คลินิกมีการให้บริการหลายสาขาตามห้างชั้นนำต่างๆ และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่รัชดาภิเษก ให้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติซึ่งจะมีทีมบริการลูกค้าที่พูดภาษาอังกฤษได้โดยเฉพาะไว้บริการ รวมถึงทันตแพทย์ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เพื่อให้คนไข้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดค่ะ

Smile Signature Dental Clinic สาขารัชดาภิเษก ให้บริการตรวจฟันและปรึกษาฟรี สามารถติดต่อหรือสอบถามได้ผ่าน เพจ Dental Vision Thailand ได้เลยนะคะ