0
0
Subtotal: ฿0.00
No products in the cart.
0
0
Subtotal: ฿0.00
No products in the cart.

สิ่งที่ควรรู้ก่อนลงทุนซื้อเครื่อง CBCT สำหรับคลินิกทันตกรรม

สวัสดีค่ะคุณหมอ เครื่อง  “CBCT” หรือ Cone Beam Computed Tomography อุปกรณ์ที่หลายคลินิกกำลังมองหา หรือกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะลงทุนดีไหม? คุ้มค่าระยะยาวแค่ไหน?

การซื้อ CBCT ไม่ใช่เรื่องเล็กค่ะ เพราะมันคือการ “อัปเกรดศักยภาพของคลินิก” อย่างจริงจัง ทั้งในแง่การวินิจฉัย การวางแผนการรักษา รวมทั้งภาพลักษณ์โดยรวม และเราจะพาคุณหมอมาทำความเข้าใจแบบรอบด้าน ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงแนวคิดเรื่องคืนทุนเลยค่ะ

CBCT คืออะไร แล้วช่วยอะไรได้บ้างในคลินิก?

เครื่อง CBCT คือเทคโนโลยีเอกซเรย์ 3D ที่สามารถแสดงภาพโครงสร้างทางทันตกรรมได้อย่างละเอียด ทั้งในแนวแกนตั้ง (Axial) แกนขวาง (Coronal) และแนวยาว (Sagittal) ต่างจากฟิล์ม X-ray แบบ 2D ที่ให้เพียงภาพแบน ส่วน CBCT จะให้ภาพที่มองได้รอบทิศสามารถเห็นทั้ง ความหนา ความกว้าง และความลึกของโครงสร้างกระดูกแบบชัดเป๊ะโดยที่คุณหมอสามารถ วางแผนตำแหน่งรากฟันเทียมได้แม่นยำ ประเมินโครงสร้างกระดูกและโพรงไซนัส วินิจฉัยการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของเนื้อเยื่อได้อย่างถูกต้อง ค้นหาคลองรากฟันที่อาจซ่อนอยู่หรือไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าหรือฟิล์มเอ็กซ์เรย์แบบทั่วไป และยังใช้งานร่วมกับระบบ CAD/CAM หรือ Surgical Guide ได้ทันทีค่ะ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจลงทุนซื้อเครื่อง CBCT

  1. ก่อนอื่นคุณหมอต้องเข้าใจจุดประสงค์ของคลินิกของคุณหมอก่อน ลองถามตัวเองนะคะว่าคลินิกมีเคสที่ต้องใช้ CBCT บ่อยแค่ไหน? เป็นคลินิกรากเทียม? ศัลยกรรม? จัดฟัน? ต้องการใช้ CBCT เพื่อยกระดับบริการหรือเพื่อการวินิจฉัยให้แม่นยำขึ้น บางคลินิกเลือกใช้บริการจากศูนย์ CBCT ภายนอกก่อนแล้วค่อยตัดสินใจซื้อเองในภายหลังเมื่อมี volume ที่แน่นอนค่ะ
  2. พื้นที่และข้อกฎหมายต้องพร้อม การติดตั้ง CBCT ต้องเตรียมสิ่งต่อไปนี้นะคะ
  • ห้องถ่ายภาพเฉพาะ มีฉากกันรังสีตามมาตรฐานของ ปส.
  • ขอใบอนุญาตครอบครองเครื่องรังสีจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
  • เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานต้องได้รับการอบรมความปลอดภัยทางรังสี

ถ้าพื้นที่ไม่พร้อมอาจต้องปรับปรุงหรือก่อสร้างเพิ่มเติม และต้องเผื่องบไว้ในจุดนี้ด้วยนะคะคุณหมอ

  1. เลือกรุ่น CBCT ให้เหมาะกับงาน โดยรุ่นและขนาดของ CBCT มีหลายแบบค่ะ โดยเฉพาะเรื่อง FOV (Field of View) ที่สำคัญมาก ๆ

ซื้อแล้วคุ้มไหม? เป็นสิ่งที่เราต้องรู้ และวิเคราะห์จุดคุ้มทุนให้ได้

ซื้อแล้วคุ้มไหม? เป็นสิ่งที่เราต้องรู้ และวิเคราะห์จุดคุ้มทุนให้ได้

คำถามยอดฮิตจากคุณหมอหลายท่านเลยคือ “ซื้อแล้วจะคืนทุนไหม?” เดี๋ยวมาดูกันค่ะว่าปัจจัยอะไรที่ช่วยให้วิเคราะห์จุดคุ้มทุนได้

  • เคสเฉลี่ยต่อเดือน ถ้าคุณหมอมีเคสรากฟันเทียม หรือศัลยกรรม 20–30 เคส/เดือน สมควรซื้อเครื่อง CBCT มากๆ เลยค่ะ
  • ราคาค่าบริการ โดยเฉลี่ยคลินิกเรียกเก็บ 1,500–3,000 บาท/ภาพ (บางที่สูงถึง 5,000 หากรวมวิเคราะห์ร่วม)
  • เพิ่มคนไข้ใหม่ CBCT ทำให้คนไข้ไว้วางใจมากขึ้น เพิ่มยอดการกระจายข่าวสารแบบปากต่อปากได้
  • เพิ่มมูลค่าการรักษา ทำให้เคสง่ายขึ้น ลดข้อผิดพลาดในการรักษา
  • สร้างความต่างจากคลินิกอื่น คลินิกที่มี CBCT นั่นหมายถึงว่า “พร้อมและแม่นยำกว่า”

ยกตัวอย่างง่าย ๆ นะคะถ้าเครื่องราคา 2,000,000.- และคุณหมอเก็บค่า X-Ray ราคา 3,000.-/1 เคส ดังนั้นคุณหมอจะต้องการประมาณ 666 เคส เพื่อคืนทุนและถ้าได้ลูกค้าเดือนละ 30 เคส จะใช้เวลาเวลา 22 เดือน เรือน้อยกว่า 2 ปีในการคืนทุนค่ะ

รู้หรือไม่ CBCT ช่วยเรื่องภาพลักษณ์ของคลินิกยังไง?

คนไข้บางคนเปรียบเทียบและเลือกใช้บริการจากภาพลักษณ์หรือเทคโนโลยีของคลินิก และ CBCT เป็นหนึ่งใน “จุดต่าง” ที่ทำให้คลินิกของคุณหมอโดดเด่นและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็น การให้คำปรึกษาที่มาพร้อมภาพ 3D แสดงแผนการรักษาด้วยภาพอย่างเข้าใจง่าย ลดความกังวลของผู้ป่วย เพราะเห็นภาพตรงปัญหาชัดเจน และยังเป็นการเสริมภาพลักษณ์คลินิกให้ดูพรีเมียม เพราะการมี CBCT (Cone Beam CT) ภายในคลินิกสะท้อนถึงการลงทุนในเทคโนโลยีระดับสูง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคลินิกให้ความสำคัญกับคุณภาพและความแม่นยำในการรักษาอย่างแท้จริงค่ะ สิ่งนี้จะช่วยสร้างความประทับใจแรกพบให้กับคนไข้เพราะรู้สึกว่าคลินิกมีความครบเครื่องแบบที่คลินิกเฉพาะทางหรือโรงพยาบาลทันตกรรมใหญ่ ๆ มีนะคะ

นอกจากนี้ CBCT ยังช่วยให้การวินิจฉัยและวางแผนการรักษาเป็นระบบ มีมาตรฐาน และลดข้อผิดพลาด ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นคลินิกระดับพรีเมียม ที่ใส่ใจในทุกขั้นตอน ไม่ใช่แค่รักษาให้เสร็จ แต่รักษาอย่างรอบคอบและปลอดภัยที่สุด อีกทั้ง CBCT คือหนึ่งในเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในวงการทันตกรรม เพราะให้ภาพ 3 มิติ ที่คมชัด ช่วยในการประเมินโครงสร้างภายในปากและขากรรไกรได้อย่างละเอียด แตกต่างจากฟิล์ม X-ray แบบ 2 มิติแบบเดิมที่อาจมองไม่เห็นรายละเอียดบางจุด เมื่อนำภาพ 3D จาก CBCT มาใช้ประกอบการอธิบายแผนการรักษา คนไข้จะรู้สึกว่าคลินิก “ล้ำ” และมีความเป็น Digital มากขึ้น ช่วยยกระดับประสบการณ์คนไข้ และสร้างความมั่นใจว่า คลินิกนี้ “ไม่ธรรมดา” และก้าวทันยุคจริง ๆ ค่ะ

บริการหลังการขาย เรื่องนี้ “สำคัญมาก”

คุณหมอรู้ไหมคะว่า CBCT ไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่พังแล้วหาซ่อมได้ง่าย ๆ ดังนั้น ตัวแทนจำหน่าย” คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ต้องดูให้ดีนะคะ แนะนำให้เลือกบริษัทที่มีช่างที่ได้รับการอบรมจากผู้ผลิตโดยตรง อะไหล่ในสต๊อก พร้อมส่ง

การรับประกันที่ชัดเจน บริการอบรมและดูแลระยะยาว มีรีวิวคลินิกตัวอย่างที่ใช้งานจริงให้ดู Dental Vision (Thailand) เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับความเชื่อมั่นจากคุณหมอในประเทศมากมายค่ะ ด้วยประสบการณ์ในวงการทันตกรรมมากกว่า 20 ปี พร้อมทีมเทคนิคที่ดูแลครบวงจร ตั้งแต่ก่อนซื้อ ติดตั้ง อบรม ไปจนถึงหลังการขาย

CBCT คือการลงทุนเพื่ออนาคตของคลินิก

การตัดสินใจซื้อเครื่อง CBCT ไม่ใช่แค่การซื้อเครื่องมือแพง ๆ นะคะแต่คือ “การลงทุนในคุณภาพ” ที่จะช่วยให้คุณหมอทำงานได้ง่ายขึ้น ถูกต้องขึ้น และเพิ่มศักยภาพให้คลินิกก้าวสู่มาตรฐานใหม่ หากคุณหมอมีแผนการรักษาที่ต้องใช้ CBCT เป็นประจำ มีทีมพร้อมและอยากสร้างภาพลักษณ์มืออาชีพให้คนไข้ประทับใจ CBCT คือตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดในยุคนี้เลยค่ะ ถ้าคุณหมอกำลังสนใจเครื่อง CBCT หรืออยากให้ช่วยประเมินรุ่นที่เหมาะกับคลินิกของคุณหมอโดยเฉพาะ ลองแวะมาคุยกับทีม Dental Vision (Thailand) ได้เลยนะคะ

เครื่องเอกซเรย์ฟัน CBCT จาก FUSSEN รุ่น D50

Facebook: Facebook: Dental Vision -Thailand ศูนย์จำหน่ายเครื่องมือทันตกรรมพรีเมียม

หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราได้นะคะที่: @dentalvision

Scroll to Top

Register

Create your DENTAL VISION THAILAND Member profile