0
0
Subtotal: ฿0.00
No products in the cart.
0
0
Subtotal: ฿0.00
No products in the cart.

ยูนิตทันตกรรม…จุดเริ่มต้นของความประทับใจแรกพบของคนไข้

ถ้าพูดถึงการเลือกคลินิกทันตกรรม คนไข้ส่วนใหญ่มักคิดถึงความเชี่ยวชาญของหมอฟันหรือการบริการที่ดี แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนมองข้ามไป คือ “ยูนิตทันตกรรม” หรือ dental chair ที่เป็นหัวใจสำคัญของการรักษา เพราะการรักษาทันตกรรมที่มีคุณภาพนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝีมือของคุณหมอเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องอาศัยเครื่องมือที่ทันสมัยและมีมาตรฐานด้วยค่ะ

ยูนิตทันตกรรม สำคัญแค่ไหนกับประสบการณ์ผู้ป่วยในคลินิก

ยูนิตทันตกรรมคืออะไร?

สำหรับคุณหมออาจคุ้นเคยดีว่ายูนิต คือระบบที่รวมทั้งเก้าอี้ น้ำ ลม ไฟ หัวเจาะ ระบบดูด ฯลฯ อยู่ในเครื่องเดียวใช่ไหมคะ แต่สำหรับคนไข้ มันคือ “เก้าอี้สำหรับนอนทำการรักษาฟัน” ซึ่งยูนิตที่ดีไม่ใช่แค่เครื่องมือที่ใช้งานได้ แต่ต้องถูกออกแบบมาให้คุณหมอทำงานสะดวก คนไข้รู้สึกผ่อนคลาย ทุกอย่างปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อค่ะ

มองจากมุมคนไข้: ยูนิตทันตกรรมที่ดี ส่งผลต่อความรู้สึกยังไง?

  1. สบายตัว แม้นั่งนาน ๆ คนไข้หลายคนกลัวการทำฟันเพราะไม่ชอบนั่งนาน ๆ ถ้าเก้าอี้แข็ง ปรับองศาเสียงดัง หรือดูไม่น่าไว้ใจ พอเริ่มต้นไม่ดีก็จะส่งผลต่อความร่วมมือของคนไปทั้งการรักษาเลยค่ะ
  2. ไฟ หัวเจาะ ระบบดูด ต้องเสถียร ยูนิตที่มีระบบดี คุณหมอก็ทำงานได้ไหลลื่น ไม่ต้องคอยเรียกผู้ช่วยมาแก้ปัญหา หรือทำให้การรักษาสะดุด
  3. ปลอดภัยแบบไม่ต้องพูด ระบบกรองน้ำ การป้องกันการปนเปื้อนของสิ่งแปลกปลอม หรือแม้แต่การจัดการของเสียที่ไม่ฟุ้งกระจาย ล้วนส่งผลต่อความมั่นใจของคนไข้ ถึงแม้คนไข้อาจจะไม่รู้ศัพท์เหล่านี้แต่อารมณ์ “ความรู้สึกปลอดภัย” จะสามารถสัมผัสได้เลยละค่ะ
  4. สามารถรองรับน้ำหนักได้เยอะ ในเคสที่คนไข้บางคนมีน้ำหนักมากหรือมีข้อจำกัดด้านการเคลื่อนไหว ยูนิตที่ออกแบบมาให้รองรับน้ำหนักได้เยอะ แข็งแรง ไม่โยก ไม่ลั่น ไม่สั่นแม้เวลาปรับระดับ จะช่วยให้คนไข้รู้สึก “มั่นคง ปลอดภัย และไม่อึดอัดใจ” ขณะรับการรักษาค่ะ

มุมมองจากคุณหมอ: เทคโนโลยียูนิตสมัยใหม่ ช่วยอะไรเราบ้าง?

  1. ระบบดิจิตอลปรับค่าได้แม่นยำ คุณหมอสามารถควบคุมแรงดันน้ำ ความเร็วรอบหัวเจาะ หรือความสว่างได้แบบละเอียด ช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาดค่ะ
  2. เสียงเงียบ สั่นสะเทือนน้อย ช่วยทั้งคนไข้ที่กลัวเสียงเครื่องมือทันตกรรมคลายความกังวลเมื่อทำการรักษา
  3. ระบบความปลอดภัยอัตโนมัติ มีการตัดไฟ เตือนแรงดันผิดปกติหรือระบบฆ่าเชื้อในตัว ช่วยให้คุณหมอและทีมมั่นใจในการรักษาว่าต้องราบรื่นแน่นอน

มาตรฐาน = ความเชื่อมั่น

  • CE, FDA หรือ ISO ไม่ได้มีไว้แค่โชว์ ยูนิตที่ผ่านการรับรอง คือเครื่องที่ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยจริงจัง ไม่ใช่แค่สวยหรูแต่ภายนอก
  • ดูแลสม่ำเสมอ = ยืดอายุการใช้งาน ต่อให้คุณหมอซื้อรุ่นดีแค่ไหนแต่ถ้าไม่มีการดูแลเครื่องที่สม่ำเสมอเครื่องก็มีสิทธิ์รวนค่ะ เพราะฉะนั้นแนะนำให้มีทีมเทคนิคตรวจเช็กเป็นระยะ จะช่วยให้ยูนิตอยู่คู่คลินิกไปได้อีกนานเลยค่ะ

ยูนิตดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

ลองนึกภาพคนไข้เดินเข้าคลินิกแล้วเจอยูนิตที่ดูใหม่ สะอาด ไม่มีคราบสนิม ไม่มีเสียงดัง เชื่อไหมคะว่าเขามักคิดทันทีว่าคลินิกนี้น่าจะดูแล

และให้บริการดีแน่ ๆ และยูนิตที่ดียังช่วยสร้างความมั่นใจและความเชื่อถือในระยะยาว คนไข้ที่มั่นใจในคุณภาพของเครื่องมือมักจะกลับมาทำต่อและบอกต่อให้เพื่อน ญาติ หรือคนในครอบครัวมาใช้บริการด้วยค่ะ

เคสเฉพาะทางก็มีความจำเป็นต้องใช้ยูนิต

  • รักษารากฟัน ต้องใช้ระบบดูดที่แรงคงที่ น้ำสะอาด และไฟสว่างพอให้คุณหมอเห็นรายละเอียดชัดค่ะ
  • ศัลยกรรมช่องปาก ต้องการความปลอดภัยสูง ยูนิตต้องจัดการของเสียได้ดี เพื่อไม่ให้เกิดการฟุ้งของเลือดหรือสารคัดหลั่ง
  • ใส่รากฟันเทียม ความแม่นยำเป็นหัวใจเลยนะคะ เพราะถ้ายูนิสามารถปรับฟังก์ชันการทำงานได้หลากหลาย เช่น สามารถตั้งความเร็วรอบ

ของหัวเจาะได้ตามที่ต้องการ ปรับแรงดันน้ำหรืออัตราการไหลของน้ำได้ดี ควบคุมระดับแสงของไฟส่องช่องปากได้หลายระดับ หรือตั้งค่าโปรแกรมล่วงหน้าสำหรับความถนัดของคุณหมอได้ ก็จะช่วยให้คุณหมอวางตำแหน่งรากเทียมได้แม่นยำขึ้นเยอะเลยค่ะ

ความคุ้มค่าที่ไม่ใช่แค่เรื่อง “ราคา”

ยูนิตทันตกรรมอาจเป็นหนึ่งในการลงทุนก้อนใหญ่สำหรับคลินิก แต่ถ้าคิดในมุมของ “ต้นทุนต่อวัน” กลับคุ้มกว่าที่คิดค่ะ สมมุติยูนิตมีอายุการใช้งาน 7-10 ปี และใช้วันละ 5-10 เคสทุกวัน ดังนั้นต้นทุนต่อเคสจะต่ำมากเมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้รับทั้งในแง่ของการทำงานที่ไหลลื่น ความเชื่อมั่นของคนไข้และภาพลักษณ์ของคลินิกในระยะยาว

อย่ารอให้ “เสียกลางเคส” แล้วค่อยเปลี่ยน

เคสเร่งด่วนอาจรอได้แต่ยูนิตเสียกลางคันคือวิกฤติเลยนะคะ คุณหมอคงเคยเจอสถานการณ์ที่ระบบดูดรวน น้ำไม่ออก หรือเก้าอี้ค้างระหว่างเอนใช่ไหมคะ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงทำให้การรักษาสะดุดแต่ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของคนไข้โดยตรงเลยค่ะ เพราะฉะนั้นถ้ายูนิตในคลินิกของคุณหมอเริ่มส่งสัญญาณว่า “ไม่เหมือนเดิม” เช่น เริ่มมีเสียงผิดปกติ ระบบดูดเริ่มแรงตก ไฟไม่สว่างเท่าเดิม ปรับองศาไม่ลื่นไหล บางทีอาจถึงเวลาอัปเกรดแล้วก็ได้นะคะ

วิธีเลือกยูนิตให้ “ตรงใจ” และ “ตรงงาน”

  1. สไตล์การรักษาของคุณหมอ (ทำศัลยกรรมเยอะ หรือ restorative เป็นหลัก)
  2. ความถนัดของทีม (ชอบยูนิตที่ควบคุมด้วยแป้นเท้า หรือ ควบคุมผ่านหน้าจอ)
  3. ขนาดพื้นที่ในห้องทำฟัน (ยูนิตควรเข้ากับพื้นที่จริง ไม่อึดอัดจนเกินไป)
  4. งบประมาณรวมทั้งค่าดูแลระยะยาว (อย่าลืมคิดถึงบริการหลังการขายด้วยนะคะ)
  5. ระบบน้ำ และแรงดันน้ำ ระบบควบคุมความร้อน ระบบกรอง-ดูด (ต้องดีเยี่ยม ใช้งานง่าย ไม่สะดุด)

เหนือสิ่งอื่นใด ยูนิตที่ดีไม่ควรทำให้คุณหมอปรับตัวเข้าหายูนิต แต่ต้องเป็นยูนิตที่ปรับตามคุณหมอค่ะ

ยูนิตทันตกรรมไม่ได้มีไว้เพื่อโชว์แต่เพื่อ “การรักษาที่ยั่งยืน” ยูนิตทันตกรรมไม่ใช่ของตกแต่งคลินิก ไม่ใช่แค่เก้าอี้ราคาแพง แต่คือหัวใจของการรักษา ที่ต้อง “ตอบโจทย์ทั้งคนไข้และคนทำงาน” อย่างแท้จริงค่ะ หากคุณหมอกำลังมองหายูนิตที่ไว้ใจได้ทั้งในแง่คุณภาพ การใช้งาน และบริการหลังการขาย ลองแวะมาพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านยูนิตทันตกรรมของ Dental Vision (Thailand) ดูสักครั้งนะคะ ทางทีม DVT ยินดีให้คำปรึกษาและให้บริการด้วยความใส่ใจค่ะ

Facebook: Dental Vision -Thailand ศูนย์จำหน่ายเครื่องมือทันตกรรมพรีเมียม

หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราได้นะคะที่: @dentalvision

Scroll to Top

Register

Create your DENTAL VISION THAILAND Member profile